ครูมวยที่มีจริยธรรมและมีเป้าหมายที่จะถ่ายทอดจริยธรรมไปสู่ผู้เล่นก็คง พิจารณาตนเองในเรื่องหลักประกันการทำงานหรือความมั่นคงของวิชาชีพ โดยการยอมสละ ตำแหน่ง ยอมละทิ้งเงินเดือน ค่าจ้าง เพื่อเดินทางไปหางานครูมวยตามอุดมคติในสถาบัน อื่นต่อไป แต่สำหรับงานครูมวยในเมืองไทยมิใช่งานที่หาทำได้ง่าย จนบางครั้งครูมวยที่ มีอุดมคติก็อาจจำต้องล้มเลิกอุดมคตินั้นไป เพื่อแลกเปลี่ยนกับตำแหน่งหน้าที่การงาน
ซึ่งจำ เป็นต่อการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน จวบจนกระทั่งครูมวยได้มาพบ หรือปฏิบัติงานอยู่ ภายใต้การบังกับบัญชาของผู้บริหารที่เข้าใจบทบาท ความสำคัญของอุดมคติ และจริยธรรมของนักกีฬา เมื่อนั้นครูมวยจึงมีโอกาสตำเนินการตามปรัชญาของตนอย่างเต็มที่ เท่าที่ กล่าวมาจะเห็นได้ว่าอุดมคติและจริยธรรมทางมวย นั้นควรมีอยู่และควรได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหาร ซึ่งถือเป็นผู้มีอำนาจสูงชุดของทีมมวย โดยผ่านทางครูมวยสู่นักกีฬามวย บุคคล ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะก่อประโยชน์อย่างยิ่งให้กับวงการกีฬา ได้ทางหนึ่ง แต่นั้นครูมวยทุกคนต้องมีความเชื่อเป็นแนวทางเดียวกันว่ารางวัลที่ยิ่งใหญ่ของครูมวย มิใช่อยู่ที่ชัยชนะของทีม แต่อยู่ที่การปลูกฝังและถ่ายทอดจริยธรรมให้แพร่ไปทั่วถึงในทีม ต่างหากซึ่งจริยธรรมนี้ครูมวยทุกทีมควรสอนควบคู่หรือพร้อมไปกับการทางด้านอื่น ๆ
สรุปแล้ว แนวทางในการสอนจริยธรรมให้แก่ลูกทีมของครูมวยนั้น นอก จากครูจะต้องใช้ความสามารถส่วนตัวพินิจพิจารณาประกอบการกระทำแล้ว ผู้ฝึกสอน ต้องอาศัยความร่วมมือของบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับทีมมวย และนักมวย เป็นผู้ช่วย การที่ผู้ฝึกสอนได้พบปะพูดจา ได้สร้างส้มพันธ์ไม่ตรีกับบุคคลเหล่านั้น เป็นโอกาสทองของ ผู้ฝึกสอนที่จะสอดแทรกจริยธรรมหรือฝากฝังจริยธรรมโดยที่เขาเหล่านั้น